วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ชุดประแจบล็อก 24 ชิ้น+ เครื่องมือ (พร้อมกล่องเหล็กกันกระแทก)

ชุดประแจบล็อก 24 ชิ้น+ เครื่องมือ (พร้อมกล่องเหล็กกันกระแทก)

ประแจบล็อก 24 ชิ้น+ เครื่องมือ (พร้อมกล่องเหล็กกันกระแทก)  

ชุดประแจบล็อกผลิตจากเนื้อเหล็กเกรดพิเศษ chrome vanadium steel เทคโนโลยีใหม่จากประเทศเกาหลี

ชุดประแจบล็อกเหมาะสำหรับการใช้งานขันและคลายน๊อตซ่อมมอเตอร์ไซต์หรือรถยนต์ สำหรับสำหรับงานช่างทั่วไป และ ช่างยนต์ มีไว้ประจำบ้าน แข็งแรง ทนทาน สามารถใช้แทนเครื่องมือขันอื่น ๆ ได้มากมาย พกพาสดวก ขนาดเล็ก กระทัดรัด เหมาะสำหรับช่างมืออาชีพ ช่างทั่วไป ผู้เดินทางประจำ ผู้ใช้ตามบ้าน

อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ลูกบล็อคขนาด 1/2นิ้ว  เบอร์ 10,11,12,13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,23,24,27,30,32 รวม 18 ชิ้น 
- บล๊อคถอดหัวเทียน เบอร์ 21  1 ชิ้น
- ด้ามกล๊อกแกล๊ก ขนาด 1/2 นิ้ว 1ตัว
- ข้องอสำหรับ 1/2นิ้ว 1ตัว
- ข้องอสำหรับ 1/4นิ้ว 1ตัว
- ด้ามต่อยาว 1ตัว
- ด้ามต่อสั้น 1ตัว


วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

ดัชนีราคาสินค้าเกษตรยังลด สัปปะรดสวนทางปรับตัวสูง


นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาพรวมราคาสินค้าเกษตรซึ่งวัดจากดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกร ขายได้ที่ไร่นาเดือนพฤศจิกายน 2558 ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2557 ร้อยละ 7.60 ซึ่งลดลงในกลุ่มธัญพืชและพืชอาหาร กลุ่มไม้ยืนต้น กลุ่มพืชน้ำมัน กลุ่มปศุสัตว์และประมง และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีราคาลดลง ร้อยละ 2.56 โดยสินค้าที่มีราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ซึ่งมันสำปะหลัง ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตยังคงออกสู่ตลาดมากประกอบกับคุณภาพไม่ค่อยดี ยางพารา ราคาลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ส่วนสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ราคาลดลงเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง สำหรับสินค้าที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ สับปะรดโรงงาน เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงงานแปรรูปสับปะรด
สำหรับดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนพฤศจิกายน 2558 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2557 พบว่า ภาพรวมผลผลิตลดลง ร้อยละ 26.23 โดยสินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ และสินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือก ยางพารา และปาล์มน้ำมัน และหากเทียบกับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 68.44 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยางพารา และสับปะรดโรงงาน และสินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลงได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และไข่ไก่ ทั้งนี้ เดือนธันวาคม 2558 คาดว่าดัชนีผลผลิต จะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 และเดือนพฤศจิกายน 2558 สินค้าสำคัญที่ออกสู่ตลาดมากในเดือนธันวาคม 2558 ได้แก่ ข้าวนาปี อ้อยโรงงานและยางพารา
ที่มา http://www.pandinthong.com/news/preview.php?id=590100000008

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปลูกกล้วยหอมทองแซมสวนยาง บิ๊กตู่ ลงสุราษฎร์ แก้ราคาตก ยิ้มปชช.อวยพรเป็นนายกฯ10ปี

เมื่อเวลา 09.00 น. วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เดินทางไปยังบ้านนายวิสูตร คันทรักษา เกษตรกรชาวสวนยางพารา หมู่ที่  4 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ในการปลูกกล้วยหอมทองแซมในสวนยางพารา ซึ่งเป็นมาตรการเสริมแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ซึ่ง จ.สุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่ผลิตกล้วยหอมทองส่งออกมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีนายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าฯจ.สุราษฎร์ธานี ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น เกษตรกรชาวสวนยาง และเกษตรกรปลูกกล้วยหอมทอง ประชาชน มาคอยให้การต้อนรับ

http://www.matichon.co.th/online/2015/12/14513054001451305432l.jpg

โดย นายกฯได้สอบถามนายวิสูตร ถึงกระบวนการปลูกกล้วยหอมทองแซมสวนยาง พร้อมกับแนะนำให้หาวิธีการแปรรูปหลายๆอย่าง และขยายตลาดรองรับ ขณะที่นายวิสูตร กล่าวกับนายกฯว่า "บางคนก็ว่าผม การที่ปลูกกล้วยหอมทองแซมสวนยางแบบนี้ เหมือนผมเป็นคนบ้า" ขณะที่ นายกฯกล่าวว่า "ก็ทำดีแล้ว คนที่ว่าอย่างนั้นต่างหากคือคนบ้า" พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังแนะนำว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้ปรึกษาสหกรณ์จังหวัด กรมสงส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือถ้าเก่งอยู่แล้ว ว่างหรือเปล่าละ ไปสอนกระทรวงเกษตรฯเขาหน่อยสิ"

จากนั้น นายกฯได้พบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ซึ่งประชาชน อวยพรขอให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไปอีก 10 ปี ขณะที่ นายกฯ ยิ้มแล้วกล่าวตอนหนึ่งว่า "หนังสือพิมพ์ลงแล้วไม่ใช่หรือว่า ใครเป็นนายกฯ คนต่อไป หมอดูอีทีก็ทำนายแล้วนี่ว่า ใครเป็นนายกฯคนต่อไป ผมไม่ใช่นักการเมือง เข้ามาช่วยลดความขัดแย้ง ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ก็ขอให้ช่วยกันสร้างความสงบให้กับประเทศชาติ ไม่ใช่ว่าใครเขามาหลอกอะไร ให้เงินหรือให้อะไรก็ไปกับเขาหมด" โดยช่วงท้าย นายกฯให้กำลังใจเกษตรกรว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ขอให้รักษาเอาไว้ และขยายไปยังท้องถิ่นอื่นๆ ด้วย

สำหรับนายวิสูตร คันทรักษา เป็นเกษตรกรประกอบอาชีพสวนยางมายาวนาน แต่ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จึงสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร เพื่อร่วมโครงการปลูกกล้วยหอมทองตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 เป็นต้นมา โดยแบ่งพื้นที่มาปลูกกล้วยหอม จำนวน 13 ไร่ ได้รับผลผลิตเป็นที่พอใจ ส่งออกขายไปยังประเทศญี่ปุ่น ได้รับกำไรจากการขายกล้วยหอมทองประมาณ 21,800 บาทต่อไร่ ปัจจุบันนายวิสูตร คันทรักษา หันมาทำเกษตรแบบปราดเปรื่อง นอกจากปลูกกล้วยหอมทองแล้ว ได้แบ่งพื้นที่ทำสวนยางพาราจำนวน 30 ไร่ กรีดยางขายรายวันมีรายได้ประมาณ 1,100 บาท และปลูกปาล์มน้ำมันขายจำนวน 15 ไร่ มีรายได้เดือนละ 7 - 8 พันบาท นอกจากนี้ยังแบ่งพื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจเพื่อให้ร่มเงารักษาความสมดุลทางธรรมชาติ และยึดหลักเดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต  
ที่มา. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451305400

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

“ไม้เท้าเฒ่าอาลี” สรรพคุณดีมีต้นขาย

ในประเทศไทย รู้จักต้น “ไม้เท้าเฒ่าอาลี” มาช้านานแล้ว และรู้จักนำเอาบางส่วนของต้นไปใช้ประโยชน์เป็นยาสมุนไพรมาแต่โบราณเช่นกัน โดยเฉพาะในแถบ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ด้วยการนำเอากิ่งก้านและเนื้อไม้หรือลำต้นจะแก่หรืออ่อน สดหรือตากแห้งก็ได้ กะจำนวนตามต้องการ ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มวันละ 4 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอนครั้งละ 1 แก้วประจำ จะช่วยเพิ่มพลังทางเพศให้บุรุษได้ดีมาก จึงทำให้มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า ต้น “ตุกะอาลี” แต่เป็นไม้ที่พบขึ้นทั่วไปบนเขาสูงและป่าดิบชื้นใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีชื่อเรียกตามสรรพคุณอีกว่า “เจ้าคุณกวนเมีย


ในประเทศมาเลเซีย เรียกไม้ต้นนี้ว่า “สตรองกัสอาลี” และได้นำเอาเนื้อไม้ไปทำเป็นผงบรรจุใส่แคปซูลออกวางขาย โดยได้จดทะเบียนยาเป็นลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศมาเลเซีย ซึ่งชาวมาเลเซียถือเป็นยาไวอากร้าของประเทศเขาเลยทีเดียว

ไม้เท้าเฒ่าอาลี หรือ “สตรองกัสอาลี” ยังมีสรรพคุณดีอีกหลายอย่าง คือ สามารถรักษาโรคผิวหนังด้วยการต้มอาบ โรคร้ายแรงเช่นเอดส์และมะเร็งผิวหนังได้ระดับหนึ่ง และยังนำไปเข้ายา เช่น ต้นแกแล ที่มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ต้นไกรทอง และอื่นๆอีกมากกว่า 10 ชนิด จำนวนแตกต่างกันตามตำรับยาโบราณและพิกัดยาแผนไทย ทำเป็นห่อๆต้มกับน้ำจนเดือด ดื่มต่างน้ำเรื่อยๆ กินจนยาจืดช่วยคลายเส้นคลายกล้ามเนื้อแก้เกาต์ ลดอาการบวมที่เกิดจากเกาต์ และลดน้ำตาลในเลือดหรือโรคเบาหวานได้ระดับหนึ่ง ส่วนคนไม่เป็นเบาหวาน สามารถนำไปดองกับเหล้าขาว 40 ดีกรี ดื่มครั้งละ 1 แก้วตะไลก่อนอาหารและก่อนนอนได้

ไม้เท้าเฒ่าอาลี เป็นไม้พุ่ม สูง 4-5 เมตร ผ่าหรือตัดเนื้อไม้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบประกอบออกเรียงสลับ ใบย่อยออกตรงกันข้ามรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมน ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง มีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯบริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเองครับ.
เครดิต https://www.thairath.co.th/content/553492

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เครื่องพ่นยา 18ลิตร 2ระบบ

แกะกล่อง เครื่องพ่นยา


เครื่องพ่นยา 18ลิตร 2ระบบ ใช้ได้ทั้งแบตเตอรี่และมือโยก ราคา 2100บาท จัดส่งฟรี
แรงดันพ่นยา 5.5บาร์ พ่นยาได้ไกล 3-4เมตร มีหัวพ่นยา3แบบ
http://rpam.co.th/categoriestools/1

ตรวจเซ็ค เครื่องพ่นยา ก่อนส่งสินค้าให้ลูกค้า

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

จุลอุตุนิยมวิทยา (Micrometeorology)

จุลอุตุนิยมวิทยา (Micrometeorology)

การรับแสงของทรงพุ่มเป็นกุญแจสำคัญต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดี
ความจำเป็นในการตัดแต่งทรงพุ่มมะนาวช่วงเจริญเติบโตเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งสร้างและแหล่งรับในพืช (Source&Sink interrelationships)
แหล่งสร้าง (Source) เป็นอวัยวะหรือส่วนของพืชที่ใช้ในการสังเคราะห์แสงสร้างอาหาร (photosynthate) ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของพืชเพื่อการเจริญเติบโต แหล่งสร้างที่สำคัญ ได้แก่ ใบที่เจริญเต็มที่หรือใบคลี่สุด (mature leaves)
แหล่งรับ (Sink) เป็นอวัยวะหรือส่วนของพืชที่ใช้หรือเก็บสะสมสารอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์แสงชอง Source ได้แก่ ราก ดอก และ ผล
โดยทั่วไป พื้นที่ทรงพุ่มของมะนาวสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชั้น ประกอบด้วย
พื้นที่ชั้นนอกสุด (A) กินเนื้อที่ประมาณ 30% เป็น Source ที่สำคัญที่สุดเนื่องจากได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึง โดยมีปริมาณแสงที่พื้นผิวได้รับประมาณ 60-100% พื้นที่ทรงพุ่มบริเวณนี้จะสามารถสังเคราะห์แสงสร้างอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด (sun leaves)
พื้นที่ใบชั้นกลาง (B) กินเนื้อที่ประมาณ 35% เป็น Source ที่มีประสิทธิภาพรองลงมาเนื่องจากมีการบังกันของใบ((Shading of Leaves ) ในบางส่วนทำให้ใบไม่ได้รับแสงอย่างทั่วถึงตลอดทั้งวัน พื้นที่ใบชั้นกลางมีปริมาณแสงที่พื้นผิวได้รับประมาณ 30-59%
พื้นที่ใบด้านในทรงพุ่ม (C) เป็นแหล่งรับที่ไม่ถูกใช้สร้างสังเคราะห์แสงสร้างอาหารเนื่องจากได้รับแสงน้อยหรือไม่ได้รับแสงเลยเนื่องจากมีการบังกันชองใบ กินเนื้อที่ประมาณ 35% ของพื้นที่ทรงพุ่มทั้งหมด ปริมาณแสงที่พื้นผิวได้รับประมาณ 0-29% เป็นส่วนที่ดีรับแสงน้อยมากถึงไม่ได้รับแสงเลย ใบในทรงพุ่มจัดเป็น sink ที่ไม่เกิดประโยชน์ในการสังเคราะห์แสงสร้างอาหารมากที่สุด
จะเห็นได้ว่า การรับแสงของทรงพุ่ม (light perception) จะขึ้นอยู่กับพื้นที่รับแสงของใบ (Leaf Area Index, LAI) และการกระจายของความหนาแน่นของพื้นที่ใบ (Leaf Area Density) ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับการกระจายแสงภายในทรงพุ่ม (light distribution ) ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของมะนาว รวมทั้งปริมาณและคุณภาพของผลผลิตเป็นอย่างยิ่ง
มะนาวในช่วงเจริญเติบโตหรือระยะก่อนให้ผลผลิตโดยเฉพาะการทำมะนาวนอกฤดูจึงไม่ควรมีทรงพุ่มแน่นทึบเกินไปหรือมีจำนวนใบมากเกินไปโดยเฉพาะพื้นที่ใบด้านในทรงพุ่ม เพราะพื้นที่ใบส่วนนี้จะไม่ทำหน้าที่สร้างอาหาร นอกจากนั้นยังจะเกิดการแก่งแย่งเอาอาหารจาก Source ไปใช้หรือเก็บสะสมไว้
การตัดแต่งทรงพุ่มด้านบนและด้านในทรงพุ่มให้โปร่ง แสงแดดสามารถส่องถึงทั่วทั้งทรงพุ่มตลอดทั้งวันเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่งเพราะจะทำให้เรามีพื้นที่ Source มากขึ้น จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของมะนาวและช่วยให้มะนาวติดดอกออกผลได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะครับ
ขอขอบพระคุณท่าน รศ.ดร.รวี เสรฐภักดี ที่กรุณาเอื้อเฟื้อข้อมูลและภาพมะนาวสวยๆของสวนมะนาว ชัชติพงษ์ ไว้ ณ ที่นี้เด้วยครับ

cr. สวนสร้อยอังกูร บ้านไร่ริมธาร กลุ่ม กลุ่มน้องมะนาวแสนรัก

ปลูกแบบไม่ขุดหลุม



ปลูกแบบไม่ขุดหลุม
สภาพดินแบบนี้คือดินเหนียวจัดแบบท้องนาที่ยกร่องเป็นสวนผลไม้ ถ้าขุดหลุมปลูกเวลารดน้ำจะเกิดน้ำขังในหลุมนี้ เพราะดินโดยรอบเป็นดินเหนียวจัด ซึ่งระบายน้ำออกไปได้ยาก รากจะแช่น้ำ อ่อนแอ เป็นโรคตายได้ง่าย วิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหา คือ ปลูกบนดินแล้วให้รากแผ่จากบนผิวดินจุดที่วางต้นกล้าแผ่ออกไปยังจุดที่เหมาะสมที่รากจะเลือกเจริญออกไปเอง วิธีนี้คือเลือกจุดที่จัดวางต้นกล้า นำปุ๋ยคอก,แกลบดิบ,หินฟอสเฟต และโดโลไมท์ หว่านกระจายบางๆ แล้วทำปุ๋ยละลายช้าสูตรเสมอ ใส่เบ็กน้อยบริเวณที่วางเข่ง แล้วจึงนำเข่งกล้าไม้มาวาง ใช้ดินผสมใส่รอบๆเข่ง ถ้าจำเป็นต้องป้องกันลมโยก ก็ตอกไม้ยึดขอบเข่งให้แน่น ควรย้ายกล้าไม้ลงปลูกในเข่งในเรือนเพาะชำก่อน ต้นกล้าแข็งแรงดีแล้วก็ยกเข่งมาวาง ณ จุดที่ต้องการ คอยรดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ รากจะเจริญเต็มเข่งแล้วแทงลงดิน และงอกไปในทิศทางที่เหมาะสมได้เอง ควรมีการใช้สารละลายดินดานทั้งในพุ่มและรอบพุ่มอย่างน้อยปีละครั้ง จะทำให้ดินร่วนซุยขึ้น ระบายน้ำและรากเจริญได้ดีและเร็วขึ้น ควรมีการใส่ปุ๋ยและวัสดุบำรุงดินต่างๆเป็นระยะๆ และปลูกหญ้าบนผิวดินด้วย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของรากให้เหมาะยิ่งขึ้นต่อการเจริญเติบโต วิธีนี้เหมาะกับที่นายกร่อง ที่ดินเหนียวจัด ซึ่งระบายถ่ายเทน้ำยาก ทำให้พืขไม่เป็นโรคง่าย แข็งแรง ทนทาน ถ้าปลูกไม้ผลก็จะออกดอกติดผลได้ง่าย ต้านทานต่อพายุได้ดีกว่าแบบปลูกในหลุม.